ก่อนตัดสินใจซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ คุ้มค่าไหมใช้งานดีจริงหรือ?

มาทำความเข้าใจ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติกัน ก่อนตัดสินใจซื้อ ว่ามันจะเหมาะกับคุณไหม

ของใช้ไฮเทค (Gadget) ที่เกี่ยวข้อง และเป็นตัวช่วยใน Life Style ของเราได้เป็นอย่างดี ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น "หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ" หรือ Vacuum Bot ซึ่งก็มีการพัฒนาความสามารถให้มากขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคาให้เลือกซื้อกันตามกำลังทรัพย์ ซึ่งแต่ละตัวก็มีฟังก์ชั่นแตกต่างกันไปตามราคานั่นเอง นายเรย์เองก็ใช้เวลาดูข้อมูลจากสื่อต่างๆ รวมถึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต จนเกิดความคาดหวังในใจขึ้นมากับตัวสินค้านี้ ว่ามันจะมาช่วย Life Style ของเราได้ตามที่เขานำเสนอ ท้ายสุดจึงตัดสินใจเลือก เจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ ยี่ห้อ iClebo จากเกาหลี รุ่น Arte ค่าตัวก็ไม่ธรรมดาตีกลมๆ 19,000 บาท เลยนาจ๊ะ

สาเหตุที่เลือกตัวนี้ ก็เพราะกวาดรางวัลมามากมายทั้งในเกาหลี และในหลายประเทศ ด้วยฟังก์ชั่นทันสมัย จุดอ่อนของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติในรุ่นแรกๆ ก็ถูกแก้ไขปรับปรุงเพิ่มขึ้นมากในรุ่นนี้ อย่างเช่น ฟังก์ชั่น camera mapping ที่จะทำให้ตัวเครื่องทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่วิ่งมัว ทำให้บางจุดไม่ถูกทำความสะอาด และสามารถกลับแท่นชาร์จได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อทำงานเสร็จ หรือแบตใกล้หมด, มีโหมดชาร์จแบตเร็ว, มีล้อใหญ่ทำให้ปีนได้สูงกว่ารุ่นที่ล้อเล็ก ช่วยให้เวลาเจอสายไฟ หรือพรม ไม่มีปัญหาติด, มีเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นต่างระดับ เพื่อที่จะไม่วิ่งตกบันได หรือทางต่างระดับสูงๆ, มีกันชนหน้าพร้อมสวิช จะได้ไม่วิ่งชนดะ โครมๆจนพังเอง ตั้งเวลาให้เริ่มทำงานได้ และอีกหลายฟังก์ชั่นครบครัน เรียกได้ว่าล้ำจริงๆ เทใจให้เต็ม 100 เลยทีเดียว

แกะกล่อง แว้ว

ตัวเครื่อง วัดสุที่ทำ ดูแน่นหนา แข็งแรงสมราคา มีรีโมทควบคุมการทำงานมาให้ แท่นชาร์จ รอช้าอยู่ใย ตรวจสอบดีแล้ว ประกอบร่าง ตามคู่มือ ก็ลุยกันเลย

ทดลองใช้งานจริง

ห้องฝุ่นเยอะจริง เลยตัดสินใจซื้อ

หลังจากชาร์จกระตุ้นแบต 1 คืน(รูปบน ใช้งานจริงๆต้องวางที่โล่งกว่านี้ครัช เพราะบังเซ็นเซอร์ ไม่งั้นมันกลับแท่นชาร์จเองไม่ได้) วันรุ่งขึ้นมาก็เทสแบบเต็มๆ นายเรย์ขอสารภาพตามตรงว่าเห่อมาก เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ 555+ นั่งมองมันทำงาน วนไปวนมาอยู่นานสองนาน ดูมันวิ่งไม่มัว พอทำงานเสร็จเจ้า Vacumm bot นี้ก็วิ่งกลับแท่นชาร์จเองได้อย่างแม่นยำ สมราคา เจ๋งจริงๆ

ในการทำงานครั้งแรก เจ้าหุ่นดูดฝุ่นนี้จะทำงานจะช้าหน่อย เพราะมันกำลังสร้างแผนที่ mapping พื้นที่ในห้องของเรา และจำไว้ ว่าจุดไหนไปได้ จุดไหนไปต่อไม่ได้ จากการที่ไปชนขอบเตียง, เก้าอี้, โต๊ะ, ฯลฯ ครั้งแรกจะชนค่อนข้างแรงอยู่ ส่วนสวิชต์ตรงกันชนหน้าก็ทำงานได้ดี หยุดได้ทันไม่ฝืนไปต่อ เมื่อเทียบกับรุ่นถูกๆ

แถบแม่เหล็กกั้นพื้นที่ไม่ให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ ข้ามไปห้องที่ไม่ต้องการให้ไป เช่นห้องน้ำ ทดลองแล้วใช้งานได้ดี เซ็นเซอร์วัดพื้นที่ต่างระดับก็ทำงานได้ดี ไม่ตกบันได หรือระเบียง เจ้าตัวหุ่นดูดฝุ่นตัวนี้หยุดได้ทัน เคยเห็นบางรุ่นมีเซ็นเซอร์แต่หุ่นฯหยุดไม่ทันก็ร่วงจนพังไปเลย

ในส่วนของล้อก็ทำงานได้เป็นอย่างดีเท่าที่ลอง เอาผ้าเช็ดเท้าวางก็สามารถผ่านไปได้แบบไม่มีสะดุด สายไฟเส้นเล็กๆไม่มีปัญหา แต่สายไฟเส้นใหญ่หน่อยมีสะดุดบ้างขึ้นกับมุมที่ล้อไต่ขึ้นไป

ข้อเสียที่สังเกตุเห็นก็คือ สวิชต์ตรงกันชน มีแค่ด้านหน้า เวลาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติมุดไปใต้เก้าอี้ นี่ถอยชนรัวๆเลย กว่าจะหาทางออกมาเองได้ใช้เวลาพอสมควร

มองหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติทำงานใกล้ๆ

เมื่อเริ่มทำงานครั้งที่สอง และต่อๆไปเจ้าหุ่นนี้จะทำงานได้เร็วขึ้น และไม่ชนโครมๆแบบครั้งแรก(ก็ชนอยู่แต่ความแรงเบาลง) แต่ตอนถอยแล้วชนก็แรงเท่าเดิมเพราะไม่มีสวิชต์หยุด ส่วนเวลามุดใต้เก้าอี้ หาทางออกได้เร็วขึ้นเล็กน้อย ถือว่าฟังก์เช่น Mapping ทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง

มองดูหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ ทำงานแล้วก็เพลินจริง พลางคิดในใจเทคโนโลยีนี่มันสุดยอดดดจริงๆ แล้วก็เริ่มคันไม้คันมือ อยากทดสอบจริงๆจังๆขึ้นมา

เริ่มด้วย เศษเล็บ เวลาตัดเล็บจะมีบ้างที่มีเศษเล็บกระเด็นไปไกล แล้วหาไม่เจอ ถ้าเจ้าหุ่นฯนี่ดูดได้จะช่วยทุ่นแรงไปมาก แต่ผลปรากฏว่า ดูดไม่ได้ เอิ่มมมม เศษเล็บคงจะหนักไป งั้นลองใหม่ เป็นเศษพลาสติกชั้นเล็กๆ ที่ตัดจากถุงสบู่เหลว กับเศษกระดาษชิ้นเล็กจาก กระดาษ A4 70 แกรม ดูละกัน เอ้า เห้ย ดูดไม่ได้ทั้งคู่เลย ดูดได้แต่ฝุ่นสมชื่อเลยนี่หวา แกะกล่องเก็บฝุ่นเช็คดูเพื่อความมั่นใจ เอิ่ม มีแต่ฝุ่น กับเศษทิชชุ่เล็กๆ เส้นผมสั้นๆนิดหน่อย ดูดได้แต่เศษเบาๆสินะ เทสหลายๆรอบ หลายๆจุดดู เพื่อความแน่ใจ

ข้อเสียในการทำงาน

แปรงกลมๆ 2 ข้าง ที่จะคอยหมุนๆเพื่อปัดฝุ่นเข้า ให้ตัวดูดๆ ไม่ได้ทำงานแบบที่คาดไว้ คือ เศษต่างๆจะต้องอยู่ในตำเหน่งที่พอดี และอยู่ในมุมที่แปรงจะปัดเข้าหาตัวเครื่องได้ หากอยู่ด้านนอก หรือมุมไม่ได้แปรงจะปัดเศษขยะออกไป กลายเป็นเศษขยะอยู่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนตำเหน่ง ปัดออกไปตรงที่ mapping ว่ายังไม่ได้ดูดพอว่า บางทีปัดไปตรงที่มันทำงานแล้ว ซึ่งตรงนี้หุ่นมันไม่รู้นะ ตรงไหนไปมาแล้วมันก็ถือว่าทำงานเสร็จแล้ว -*-

อ่ะงั้นลองใหม่ เอาเศษจ่อๆ เลยให้ตรงกับแนวท่อดูดเลยดูสิจะเป็นไง..... ผลปรากฏว่า ทั้งเศษเล็บ เศษพลาสติก เศษกระดาษ ดูดไม่ได้เหมือนเดิมจร้า หมายความว่า ตัวดูดไม่มีกำลังแรงพอ และตัวแปรงไม่สามารถปัดเศษเข้าตัวดูดในระยะที่ตัวดูดทำงานได้ดีได้

เพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้น ดูภาพประกอบด้านบน ตามปกติ แปรงจะหมุนเข้าหาตัวตามลูกศร กรณีที่ทดสอบเจอ และเห็นได้ชัดคือ กรณีเศษอยู่ตำเหน่งที่ 1 แปรงที่หมุนจะปัดเศษออกจากตัวเครื่อง ส่วนกรณีตำเหน่งที่ 2 พบว่า บางครั้งเศษถูกปัดไปอีกฝั่ง บางครั้งเศษถูกปัดไปข้างหน้า บางครั้งก็ปัดเข้าแนวตัวดูดได้พอดี ทั้งนี้ขึ้นกับมุม และองศาที่พอดีด้วย หากยังไม่เห็นภาพ ดูคลิปประกอบกันจะๆไปเลย

และยังมีข้อสังเกตุอีกอย่างคือ ผ้าถูพื้นในช่วงหลังตัวเครื่อง ตรงนี้ก็เป็นตัวช่วยเก็บฝุ่นอย่างหนึ่ง ในกรณีที่ตัวดูดๆไม่ได้ ฝุ่นก็จะมาเกาะที่ผ้าถูพื้นนั่นเอง ดูเหมือนจะดีนะ แต่ในบางครั้งที่หุ่นเลี้ยว หรือไปชนขอบเตียง ทำให้เศษฝุ่นบางส่วนจากในผ้าถูพื้นหลุดออกมาได้ ให้เรามาคอยตามเก็บเอาเอง เอิ่มมมม

ข้อควรพิจารณา ในการเลือกซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ

• ขนาดของพื้นที่ สามารถสอบถามผู้ขายได้ว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ เหมาะกับใช้งานในพื้นที่ขนาดประมาณกี่ตารางเมตร ตรงนี้จะสอดคล้องกับความจุแบตเตอรี่ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง แม้จะวิ่งมัว แม้จะแบตหมดกลางทาง ก็ถือว่าทำความสะอาดพื้นที่ได้เยอะแล้ว แม้จะมีบางจุดยังไม่สะอาดบ้างตรงนี้เราต้องเข้าใจ ไม่ใช่เอาหุ่นมาทำงานกับพื้นที่เกินขนาดมากๆ มันก็เกินตัวไปหน่อย
• พื้นที่ต่างระดับ ตรงนี้สำคัญมาก ทั้งสายไฟ พรม ผ้าเช็ดเท้า เพราะหากเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่ล้อเล็กไป หรือมีช่วงระดับความสูงที่ข้ามได้น้อยไป ก็จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นไปติดคาอยู่ลงมาเองไม่ได้ จนแบตหมดไปเลยก็มี และรวมไปถึงขึ้นบันได ระเบียงที่มีช่อง ที่จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นวิ่งร่วงตกลงมาพังได้ ก็ต้องพิจารณาเลือกรุ่นที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความสูงด้วยนั่นเอง
• สิ่งกีดขวางต่างๆ ที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ จากเฟอนิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ของเรานั่นเอง ตรงนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น สำหรับท่านที่มีสิ่งกีดขวางมากให้พิจารณา หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีฟังก์ชั่นในการ mapping ก็จะช่วยให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
• ความสูงของตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตรงนี้จะเกี่ยวข้องกับ จุดที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะสามารถลอดไปข้างใต้เพื่อเข้าไปทำความสะอาดได้ เช่นใต้เก้าอี้โซฟา ใต้เตียงเป็นต้น แต่หากท่านใดใช้เตียงใหญ่ 5 ฟุตขึ้นไป และนำเตียงเข้ามุม แนะนำให้เลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีฟังก์ชั่นกลับแท่นชาร์จไฟเอง เผื่อกรณีที่ไปแบตหมดใต้เตียง กลายเป็นต้องคอยเอาไม้มาเกี่ยวมันออกมา หรือหากไม่อยากให้มันเข้าไปใต้เตียงก็สามารถเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีความสูงมากกว่าช่องไปเลยก็ได้ หรือในบางรุ่นก็จะมีแถบแม่เหล็กเป็น กำแพงจำลอง เอาไว้วางจุดที่ไม่ต้องการให้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป ก็สามารถเลือกจากฟังก์ชั่นนี้ได้
• ประเภทสิ่งสกปรกที่ต้องการกำจัด สำคัญสุดๆ คุณซื้อหุ่นฯดูดฝุ่น มาเพื่อดูดอะไร หากมันไม่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ ก็จบข่าวเลย ยิ่งเป็นขยะที่มีน้ำหนักมาก ก็ต้องใช้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่มีขนาดใหญ่ตามนั่นเอง ตรงนี้ในบางรุ่นจะมีบอกชัดเจนเป็นจุดขายเลยว่ารุ่นนี้พลังดูดแรง เพื่อไม่ให้ผิดหวังในภายหลังนั่นเอง

สรุปทิ้งท้าย

หลังจากเทสหลายรอบจนมั่นใจ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติก็ดูดฝุ่นสมชื่อจริงๆ คาดว่าเป็นเพราะหุ่นฯตัวนี้แรงดูดอ่อนไปจึงไม่สามารถดูดเศษต่างๆที่ใช้ทดสอบได้ อาจเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย แต่ก็พอเข้าใจได้ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการออกแบบ หากแรงดูดมากไปจะเกิดแรงดึงตัวเครื่องกับพื้น ทำให้เคลื่อนที่ยาก มอเตอร์ล้อทำงานหนักก็เปลืองแบตเตอรี่อีก

สำหรับนายเรย์ หุ่นฯที่ซื้อมาตัวนี้ถือว่าไม่ตอบโจทย์ Life Style อย่างแรง เพราะท้ายสุดก็ต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นมาไถ่ๆดูดเอาเศษที่เหลือเองอยู่ดี คงต้องรอให้เทคโนโลยีนี้อิ่มตัวกว่านี้ อีกสักพัก แล้วราคาจะถูกลง ถึงจะลองโดนอีกครั้ง แต่ก็เห็นมียี่ห้ออื่นที่ทำแบบรุ่นใหญ่ออกมา ที่มีแรงดูดสูงไม่ต่างจากเครื่องดูดฝุ่นมือถือ แต่ราคาไม่ไหวเอื้อมไม่ถึง (3 - 4 หมื่นได้ T__T)

รีวิวนี้เป็นเพียงการใช้งานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ เฉพาะรุ่น และยี่ห้อดังกล่าวเพียง 1 ตัวเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติยี่ห้อนี้ และยี่ห้ออื่นๆ จะเป็นแบบที่นายเรย์เจอ แต่ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน เผื่อเข้าใจการทำงาน เพื่อการเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติให้โดนใจ ก็นะราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ ซื้อมาแล้วไม่ตอบโจทย์ มันก็เสียดายเงินมากจริงๆ